กองปราบปราม รายงาน ตำรวจจับกุม นายทินกร (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลมณฑลทหารบกที่ 15 หมายจับที่ จ.227/2557 ลงวันที่ – ตุลาคม 2557 ความผิดฐาน กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม,พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร เพื่อการอนาจาร
เมื่อประมาณปี 2557 นายทินกร ตอนเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
ได้รู้จักกับเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี วันที่เกิดเหตุ นายทินกรได้นัดเด็กหญิงเอไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพาไปเลี้ยงอาหารดูหนังจนมืดค่ำ จากนั้นจึงพาเด็กหญิงเอนั่งรถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก แต่ระหว่างทางได้เลี้ยวรถเข้าไปในโรงแรมม่านรูด และบังคับขืนใจเด็กหญิงเอจนสำเร็จความใคร่ พร้อมทั้งยังได้ข่มขู่เด็กหญิงเอว่า ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่งั้นจะเอาถึงตาย
ต่อมาผู้ปกครองของเด็กหญิงเอสังเกตุเห็นว่าลูกสาวมีอาการเซื่องซึมไม่กินข้าว ไม่พูดคุยปกติ จึงสอบถามความจริง เด็กหญิงเอจึงบอกความจริงกับพ่อแม่ จากนั้นพ่อแม่ผู้จึงได้พาเด็กหญิงเอ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำปราณ เพื่อดำเนินคดีกับนายทินกรตามกฎหมาย แต่เมื่อนายทินกรทราบว่าตนเองถูกออกหมายจับ ก็ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านญาติในจังหวัดนครปฐม
5 ปีผ่านไป วันที่ 24 ธ.ค.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม สืบสวนทราบว่านายทินกร ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านญาติ ในพื้นที่ ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้เดินทางมาจับกุมนายทินกรให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
อนึ่ง ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และการเผยแพร่ในครั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และเพื่อไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรม
วันนี้ (25 ธ.ค.) ตำรวจภูธรภาค 9 ได้จับกุม น.ส.ณัฐนันท์ สุขเกษม อายุ 30 ปี โจรในคราบแม่ค้าออนไลน์ที่มีหมายจับติดตัวถึง 4 หมาย รวม 11 สถานีตำรวจเกือบทั่วทุกภาคของประเทศจากข้อหาฉ้อโกง โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
ขบวนการเสื่อม แม่พาลูกออทิสติกนอนกับผู้ชาย ก่อนกรรโชกทรัพย์เหยื่อ
แม่พาลูกออทิสติกนอนกับผู้ชาย – วันที่ 26 ธันวาคม 2562 เป็นเรื่องที่ใครฟังแล้วต้องอึ้งเมื่อบอกว่า แม่แท้ ๆ ให้ลูกสาววัย 19 ป่วยออสทิสติก ร่วมหลับนอนกับผู้ชาย ก่อนตลบหลักกรรโชกทรัพย์เหยื่อให้จ่ายเงิน และเรื่องแดงถึงตำรวจเพราะเหยื่อผู้ชายไม่ยอม ไปแจ้งตำรวจ
เหตุเกิดขึ้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อช่วงพฤษภาคม 2562 นายก้อง (นามสมมุติ) เหยื่อเป็นชายวัย 24 ปี ทำงานในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี รู้จักเด็กหญิงวัย 16 (ขอเรียกว่า น.ส.เอ) อ้างว่าเรียนอยู่ ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร จากนั้น วันที่ 3 มิถุนายน 256 ได้มีเพศสัมพันธ์กัน วันต่อมาได้ไปส่งเด็กหญิงส่งขึ้นรถบัสกลับบ้าน ส่วนตนไปทำงานตามปกติ
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น ต่อมาได้มีหญิง 2 คน แต่งตัวข้าราชการ อ้างตัวเป็นแม่(นางกัญญณณัฎฐ์ อายุ 39 ปี) กับป้า (นางยิ่งลักษณ์ อายุ 49 ปี) เด็กหญิงที่ชายหนุ่มร่วมหลับนอน ได้มาหาเขาที่บ้าน บอกว่าจะเอาเรื่องที่ไปนอนกับลูกสาวตน ซ้ำยังมีชายอีกคนมาพร้อมกันอ้างว่าเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท เป็นพ่อของเด็กหญิง
ข้อเสนอแลกต่อการไม่ดำเนินคดีพรากผู้เยาว์ คือเงินค่าเสียหาย 3 แสนบาท ต่อมาลดเหลือ 2 แสน 5 หมื่นบาท ซ้ำยังมีให้หมั้นหมายกัน และจะให้ส่งเด็กหญิงเอ เรียนจบป.ตรีแล้วจะแต่งงานกัน สุดท้าย พิธีหมั้นระหว่างทั้งสองฝ่ายก็เกิดขึ้น ที่บ้านโนนสมบูรณ์ ต.น้ำโสม
ต่อมาเรื่องกลับหักมุม เมื่อมีคนมาแฉความจริงให้ทราบว่าตนถูกจัดฉากกรรโชกทรัพย์ “นางกัญญณณัฎฐ์” เป็นแม่ น.ส.เอ จริง แต่พ่อเป็นตัวปลอม ส่วนน.ส.เอ เป็นเด็กพิการทางสมอง เมื่อลูกสาวโตประมาณ 15 ปี นางกัญญณณัฎฐ์ ได้วางแผนแยบยลพาลูกสาวไปหลับนอนกับผู้ชาย แล้วกรรโชกทรัพย์ รายละ 50,000-500,000 แสนบาท ชายหนุ่มจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ว่า ถูกนางกัญญณณัฎฐ์ พร้อมป้าชื่อนางยิ่งลักษณ์ อายุ 49 ปี กรรโชกทรัพย์พร้อมหลอกให้หมั้นกับเด็กหญิงซึ่งแท้จริงอายุ 19 ปี
ต่อมา ตำรวจได้เรียก นางยิ่งลักษณ์ ป้า น.ส.เอ มาสอบสวน และให้การรับสารภาพ โดยนางกัญญณณัฎฐ์ ผู้เป็นแม่ได้ร่วมกับพวก 6 คน นำรูป น.ส.เอ ไปสมัครในแอปพลิเคชันหาคู่แอปหนึ่ง เพื่อแชตกับผู้ชาย ซึ่งพวกตนเป็นคนพา น.ส.เอไปส่งร่วมหลับนอนกับผู้ชายถึงที่ และที่น่าตกใจคือ แก๊งก์นี้ทำแบบเดียวกับผู้อื่นมาแล้วถึง 6 คน ในจังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร หนองบัวลำภู เมื่อได้เงินก็มาแบ่งกัน นางกัญญณณัฎฐ์เอาเงินไปเล่นการพนัน
ต่อมาตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับนางกัญญณณัฎฐ์ ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ ไม่มีสิทธิ์สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์” นอกจากนี้ตำรวจได้แจ้งข้อหาจับผู้ร่วมขบวนการไปแล้ว 2 คน กำลังสอบสวนขยายผลว่า มีผู้ใดร่วมขบวนการกับ นางกัญญณณัฎฐ์ อีกบ้าง จะจับให้หมด
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร